|
เขียนเมื่อ: 21 มกราคม 2551
ตอนนี้กล้องดิจิตอล SLR เริ่มมีราคาถูกลง
และกล้อง SLR ฟิลม์ ก็ลดราคาลงมากเช่นกัน
ดังนั้น เลนส์มือสองในตลาด ก็เริ่มมีการหมุนเวียนจำหน่ายมากขึ้น
ทำให้น่าลองจับซื้อหามาใช้กันครับ
แต่ก่อนจะออกไปซื้อ ขออนุญาตเรียนแนะนำ
วิธีการเลือกดุกันเล็กน้อยครับ
.................................................
หลังจากไปเดินดูตามร้าน
หรือ นัดดูเลนส์ตัวที่ถูกใจที่ประกาศขายตามเวปบอร์ดต่างๆแล้ว
การดูเลนส์ควรจะทำในที่ๆมีแสงสว่างๆมากๆ ครับ
จะได้เห็นตำหนิกันชัดๆ
สิ่งแรกที่ดูก็คือผิวเลนส์
เลนสที่มีร่องรอยบน ผิวหน้าแบบนี้ทั้ง ชิ้นหน้า-ชิ้นหลัง
หากเห็นเส้นใยๆนวลขาวแบบนี้ก็เก็บได้เลยครับ
เก็บเลนส์คืนเจ้าของ เก็บตังค์เราไว้ในกระเป๋าครับ
![](images/article_images/O3032667-1.jpg)
ยกเลนส์ขึ้นมาเล็งให้กับแสงไฟหรือหลอดไฟที่สว่างๆ
แล้วก็ส่อง-หมุน- ส่อง-หมุน-ส่อง-หมุนกระบอกเลนส์ไปรอบๆ
กวาดสายตาดูในกระบอกเรือนเลนส์จากด้านนอกขอบเลนส์ ไปตรงกลางด้านในใจกลางเลนส์
ควรจะหมุนไปรอบๆเพราะเชื้อราจะเริ่มขึ้นจากขอบๆรอบนอกเลนส์ แล้วลามเข้าไปด้านในกลางผิวเลนส์ครับ
ต่างกับฝ้าที่มักจะเกิดตามขอบแล้วลามไปตามขอบจนรอบเลนส์ แล้วจึงเข้าหาตรงกลางเลนส์ครับ
ฝ้ายังพอจัดการแก้ไขได้ แต่เชื้อราจะจัดการล้างยากเพราะต้องลอกโค้ทติ้งเคลือบผิวหน้าเลนส์ทิ้งอย่างเดียวครับ
เลนส์ที่มีเชื้อราบนผิวเลนส์ ซึ่งเกิดจากความชื้นเในเลนส์จะมีลักษณะแบบนี้ครับ
![](images/article_images/O3032667-2.jpg)
เลนส์ด้านหน้าหลังอาจจะดูสวย แต่อย่าไว้ใจใครครับ
ยังมีเชื้อราบนผิวเลนส์ ภายในเลนส์อีกครับ
เวลาส่องกับแสงสว่าง หรือ ใช้ไฟฉายเล็กๆส่องกวาดดู
จะมีลักษณะแบบนี้ครับ
![](images/article_images/O3032667-3.jpg)
ตอนนี้ก็หันมาดูหน้าตาหรือโค้ทติ้งกันบ้าง
วิธีดูก็ให้ตั้งเลนส์ตรงๆกับที่สว่างๆ แล้วเอียงเส้นสายตาให้ทำมุมประมาณ 45 องศาเฉียงกับหน้า
ดูแสงสะท้อนที่ออกมาจากผิวเลนส์
ดูว่าเฉด หรือ เหลือบสี ทั่วทั้งผิวหน้าเลนส์
สะท้อน ออกมาสม่ำเสมอ ดีหรือไม่ ครับ
![](images/article_images/O3032667-4.jpg)
สังเกตุดูแสงสะท้อนที่ออกมาจากผิวเลนส์
พร้อมกับหมุนตัวเลนส์ไปช้าๆ
หมุนซ้า่ยก็ได้ หมุนขวาก็ดีครับ
สังเกตที่ตัวหนังสือที่จำหลักไว้ที่ขอบเลนส์น่ะครับ
เลนส์ที่โค้ทติ้งดี สวยๆ
ไม่ว่าจะหมุนอย่างไร แสงและสีที่สะท้อนออกมาจากผิวเลนส์จะต้อง ให้เหลือบสีเหมือนกันเสมอครับ
ในภาพสังเกตตำแหน่งตัวหนังสือที่ขอบเลนส์ และสีของแสงที่สะท้อนออกมาน่ะครับ
![](images/article_images/O3032667-5.jpg)
หากส่องข้างในรอบๆแล้วผิวเลนส์ดูสุกใสก็ดูรอบๆตรงท้ายเลนส์ครับ
เลนส์ที่ดีสภาพสวยๆก็ควรมีเขี้ยวล้อคสวยๆด้วยครับ
เพราะหากเขี้ยวล้อคเลนส์หลวมคลอน ก็จะยึดกับกล้องได้ไม่แน่น
ดังนั้นให้หาหรือเอากล้องที่ใช้ด้วยไปลองด้วยครับ ว่าใส่แล้วแนบสนิทกับบอร์ดี้ดี
ช่องว่างเสมอหน้าแปลนกล้องไม่เบี้ยว ไม่ขยับได้ครับ
เลนส์ผ่านการใช้งานมาสมควร สีดำเคลือบหลุดลอกออกไปบ้าง
แต่เลนส์ใช้งานมาบ้าง มักจะดีกว่าเลนส์เก็บไม่ค่อยใช้งานครับ
![](images/article_images/O3032667-6.jpg)
ตอนนี้ก็มาลองดูแมคคานิคกลไกของเลนส์
หากเป็นเลนส์ nikon รุ่นที่ยังมีแหวนปรับรูหน้ากล้องอยู่ท้ายเลนส์ก็ตรวจดูตรงจุดเหล่านี้น่ะครับ
1. สวิชท์ L สำหรับล้อคค่ารูหน้ากล้องที่แคบที่สุด ทำงานได้คล่องไม่ติดขัด
2. สวิชท์ L สำหรับล้อคค่ารูหน้ากล้องที่แคบที่สุด จะทำงานได้ก็ต้องเมื่อเปิดรูหน้ากล้องที่แคบที่สุดของเลนส์เท่านั้น จะใช้กับค่ารูหน้ากล้องอื่นไม่ได้ครับ
3. หรี่รูหน้ากล้องแคบสุดแล้ว สวิชท์ L จะไม่ขยับอีก
![](images/article_images/O3032667-7.jpg)
4. ส่องดูในเลนส์ว่ารูหน้ากล้องปิดแคบสุดจริง (แต่รูจะต้องไม่ปิดสนิท ต้องเหลือนิดหน่อย)
5. ดูกลีบใบจักรปิดรูหน้ากล้องว่าสะอาดไม่มีคราบสนิมหรือ น้ำมันจับหรือรอยขีดข่วน
6. ลองปลดล้อค สวิชท์ L แล้วค่อยๆหมุนแหวนเปิดรูหน้ากล้องที่ละคลิกสต้อป แต่ละสต้อปต้องหยุดแบบนิ่งกึก ไม่คลอนแคลน
7. ส่องดูในเลนส์ทีละสต้อปว่า รูหน้ากล้องที่ค่อยๆเปิดได้สมมาตรสม่ำเสมอเป็นวงสวยไม่มีติดเป็นขยัก
8. ทำแบบเดียวกันนี้ ซัก 2 ครั้ง ครับ
![](images/article_images/O3032667-8.jpg)
9. เอาเลนส์ใส่กล้องที่มีระบบช่วยถ่ายภาพ
ปรับไปที่โหมด S ตั้งความเร็วตั้ง 1/2 วินาทีจนถึง 1/15 วินาที แล้วกดชัตเตอร์ แล้วตรวจดูขนาดรูหน้ากล้อง
รูหน้ากล้องควรจะปิดเปิดไม่เท่ากันในแต่ละความเร็วครับ
10. หากเป็นกล้องเก่าๆ FM, FE ไม่มีโหมด S ก็ใช้ปุ่มเช็คระยะชัดลึกในกล้องหรือ โหมด A แทนก็ได้ครับ
คือเมื่อกด แล้ว แสงหรือภาพที่เห็นในช่องมองภาพควรจะมืดหรือสว่างตามลักษณะรูหน้ากล้องที่ตั้งเอาไว้ครับ
![](images/article_images/O3032667-9.gif)
ตรวจดูกลไกว่าทำงานได้เรียบร้อย ก็มาตรวจดูเลนส์ว่าเคยโดนถอดมาหรือไม่
วิธีตรวจดูก็เอานิ้วลูบที่หัวสกรูกากบาทท้ายเลนส์ครับ
เลนส์ซิงๆ ควรจะราบเรียบไม่สะดุดระคายนิ้ว
หัวสะอาด ความลึกฝังจมลงไปเท่าๆกันทุกหัว
หากไม่ได้เอาหลูป loupe ไปส่องก็เอา เลนส์ที่มีในร้าน หรือ ใกล้ๆมือ กลับเลนส์ ส่องดูไปพลางๆก่อนก็ได้ครับ
![](images/article_images/O3032667-10.jpg)
จากนั้นก็ตรวจดูสภาพภายนอกอื่นๆเช่น
1. ร่องเกลียวฟิลเตอร์หน้าเลนส์ว่ายังใช้ได้ เกลียวไม่หวานรูด จนใส่ฟิลเตอร์ไม่ได้
2. ตัวหนังสือ เครื่องหมายต่างๆไม่เลอะเลือน
3. เขย่าเลนส์แล้ว ไม่มีเสียงดังกุกกักอยู่ข้างใน
4. ลองปรับโฟกัสแล้ว สเกลบอกระยะทางตรงกันกับที่เขียนบอกไว้ข้างกระบอกเลนส์
5. หากมีคอลล่าร์ รูเกลียวใส่ขาตั้งใต้คอลล่าร์เกลียวสะอาดไม่หวานรูด
6. หากคอลล่าร์มีน้อตปรับตำแหน่งกล้องเป็นแนวตั้งได้ น้อตยึดก็สามารถจับกระบอกเลนส์ได้แน่ ไม่หวานรูดครับ
7. แหวนปรับซูม/โฟกัสหมุนได้คล่อง ไม่สะดุดหมุนเกินจนเลยสุดระยะโฟกัสไปมากนัก
8. แหวนซูมและแหวนโฟกัสไม่เลื่อนหน้าถอยหลัง (ยกเว้นเลนส์ซูฒแบบแหวนเดี่ยว)
9. ขอบยางต่างๆ ตะเข็บไม่ปริแตก หรือ ลอก และลายพิมพ์บนยางยังมีสันคมอยู่ครับ
10. สีเลือนลางไปตามการใช้งานได้ครับ แต่ไม่ควรมีรอยบุบ หรือ ถลอกครับ
![](images/article_images/O3032667-11.jpg)
ประการสุดท้าย ตรวจดูว่าเลนส์ที่จะซื้อมีอะไรมาให้บ้าง เช่น คู่มือ, ฝาปิดหน้า, ฝาปิดหลัง, กล่องใส่เลนส์ เป็นอย่างน้อย
เลนส์บางรุ่นจะมีของแถมมาให้ในกล่องครบชุดให้ด้วยเช่น ฮูดกระบังแสง, กระเป๋าใส่เลนส์, หรือแม้แต่ฟิลเตอร์ ครับ
วิธีตรวจสอบที่ดีที่สุดก่อนจะนัดดูเลนส์มือสองก็คือไปที่ร้านขายกล้อง/เลนส์แล้วขอดูเลนส์ อันใหม่ รุ่นเดียวกันกับที่จะซื้อมือสองที่หมายตาไว้ครับ
พอได้ลองจับของใหม่แล้วก็จะทราบได้เองว่า ของมือสองที่ตั้งใจจะซื้อนั้นควรมีหน้าตาอย่างไร
ทำงานได้แบบไหน ในกล่องมีอะไรมาให้บ้างครับ
ขอขอบคุณที่ทนอ่านจนจบและขอให้โชคดี ตามล่าหาเลนส์ที่ต้องการให้ได้พบเสมอครับ
บทความโดย Joel**
ที่มา http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/O3032667/O3032667.html
กลับหน้าแรก
|
|
|